พลเอก ไพบูลย์ ค้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ประชาชนผู้ประสบวาตภัย พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ ๐๘.๔๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธณสุขอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อจากนั้น
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน ๑,๕๑๘ ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเจ้าหน้าที่ให้ทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอสิชล จำนวน ๓ ครอบครัว อำเภอนบพิตำ จำนวน ๒ ครอบครัว และอำเภอพรหมคีรี จำนวน ๖ ครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้ทุพลลภาพ พร้อมกับพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตตามปรกติสุข ต่อไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจิตอาสาพระราชทาน ได้เร่งให้ความช่วยเหลือ ซ่อมแซม และฟื้นฟูบ้านเรือนราษฎร ถนน และพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายเป็นการเร่งด่วน แล้ว
จังหวัดนครศรีธรรมราช แบ่งการปกครองออกเป็น ๒๓ อำเภอ ๑๗๐ ตำบล ๑,๔๒๘ หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซร้อนซินลากู (SINLAKU) และหย่อมความกดอากาศต่ำแพร่ปกคลุมภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒-๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นวงกว้าง
ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ทำให้บ้านเรือนราษฎร ทรัพย์สิน ถนน สะพาน และพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ ๑๔ อำเภอ ๗๐ ตำบล ๓๗๙ หมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ ๑,๕๒๙ ครัวเรือน ราษฎรเสียชีวิต ๑ ราย