พระราชดำรัสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานแก่ คณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ส่วนกลางคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ผู้มีจิตศรัทธานักเรียนทุนพระราชทานการศึกษาส ...

วันนี้ ก็มีความยินดีที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้พบกับคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และผู้บริจาคทั้งหลายแทนพระองค์เป็นครั้งแรก ธรรมดาก็ได้พบตามที่ต่าง ๆ นี่ก็มาพบที่รวมกัน เมื่อตั้งแต่เริ่มตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ มานี้ ก็ถือว่าตอนนั้นจำความได้แล้ว แต่ว่าก็เห็นผู้ที่ได้ปฏิบัติงานมาตั้งแต่ครั้งสมัยก่อนแล้ว ก็ยังสนองพระเดชพระคุณในงานของมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้อย่างที่ได้พบกัน 

ยังจำได้ว่าครั้งนั้นเกิดวาตภัยขึ้นที่แหลมตะลุมพุก แล้วก็มีพระราชดำรัสที่ให้ทุกคนร่วมช่วยกัน ตอนนั้นยังเป็นเด็กก็ได้ช่วยจัดของต่างๆ เพื่อจัดเป็นชุดแล้วก็ให้ ผู้ที่สามารถที่จะไปที่เกิดเหตุได้นำไปให้กับผู้ประสบภัย ก็ในครั้งนั้นก็ได้ขโมยหนังสติ๊กกับถุงพลาสติกมาเล่นเป็นผลพลอยได้ แต่ว่าเมื่อมานึกดูอีกทีนั้นก็ถือว่าเป็นครั้งแรกหรือครั้งแรกๆ ที่มีการคิดระบบเช่นนี้ขึ้น คือระบบที่ว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความสามารถมาก มีแรงมากหรือผู้ที่มีความสามารถน้อยหรือแรงน้อยก็จะสามารถที่จะร่วมกันช่วยเหลือได้ อย่างเช่นอย่างที่เป็นเด็กก็ช่วยบ้าง เล่นบ้าง และก็นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องเป็นของใหม่ และของใหม่ที่ได้สังเกตเห็นอีกอย่างหนึ่ง คือ การประชาสัมพันธ์ ในสมัยนี้เรื่องของการประชาสัมพันธ์ เมื่อมีเหตุต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือจำกคนเป็นจำนวนมากๆ นั้น ก็อาจไม่ใช่ของแปลกอะไรนัก แต่ว่าสมัยนั้นก็ถือว่ายังหาได้ยาก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงดนตรีเอง และก็จัดแถลงข่าวผ่านทางสถานีวิทยุและผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถไปเองได้ก็นำทรัพย์หรือว่าสิ่งของต่างๆ มาโดยเสด็จพระราชกุศลได้ ก็เป็นการนำวิธีการเช่นนี้มาเป็นครั้งแรก หลังจำกนั้นเมื่อตั้งเป็นมูลนิธิฯ แล้วก็ได้ปฏิบัติงานไม่เฉพาะแต่จะเป็นเรื่องของวาตภัย แต่เมื่อมีเหตุต่างๆ อย่างที่ท่านประธานได้กล่าวมาว่า เมื่อมีอัคคีภัย หรือภัยต่างๆ ผู้ที่ประสบภัยก็จะได้รับของพระราชทำนโดยที่ได้ทันท่วงที เพราะว่าของก็เอาไปเก็บไว้ตามที่จังหวัดต่างๆ อยู่แล้ว แล้วก็การช่วยเหลือนี้ก็นับว่าเป็นการช่วยเหลือที่ได้เมื่อมีภัย เมื่อยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แล้วก็ผู้ที่มาช่วยเหลืออาสาสมัครนั้น ก็ถือว่าเป็นการทางานโดยที่ไม่ได้ถือเป็นหน้ำที่ราชการโดยตรง ก็เป็นการนอกระบบราชการแต่ว่าเป็นการช่วยเพื่อนมนุษย์กันได้อย่างทั่วถึง คือ มีแกนกลางที่จะทำ ที่จะไปช่วยกัน และก็ใช้เงินทองหรือสิ่งของที่มีผู้ร่วมกันให้ ก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง นอกจากที่จะเป็นวิธีการช่วยเหลืออย่างระยะกะทันหันแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำริถึงการช่วยราษฎรในลักษณะอื่นๆ เช่น อย่างยกตัวอย่างเช่น มูลนิธิชัยพัฒนำ ก็ช่วยในเรื่องของกาพัฒนาในระยะยาว เช่น อย่างเกิดวาตภัยขึ้นหรืออุทกภัยก็จะช่วยเหลือในแง่ของการสร้าง ปรับปรุงเส้นทางให้น้ำสามารถออกจำกพื้นที่ได้หรือแก้ไขปัญหานั้น หรือว่าการสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรการพัฒนาการเกษตรอย่างนี้ เป็นต้น

ก็งานต่างๆ ก็ได้ร่วมมือกัน เช่นที่ทางานอยู่ก็เฉพาะแต่ในเรื่องของชัยพัฒนา มีใครมีจิตศรัทธาที่จะช่วยเหลือชนิดทันท่วงที ก็ประชาสัมพันธ์ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ว่าเค้าได้ทางานได้อย่างทันท่วงทีก็ให้มอบสนับสนุนให้ไปในทางด้านนั้น เป็นการแบ่งงานกันทำ แต่ว่ามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นั้น ก็ไม่ได้ทำเฉพาะแต่ในงานระยะสั้น อย่างในเรื่องของการศึกษานั้นก็ถือว่าเป็นการพัฒนำในระยะยาวและต่อเนื่อง ที่ทางมูลนิธิฯ ได้ทำ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของเมื่อเกิดเหตุวาตภัยนั้น ก็มีผู้ที่ลำบาก เช่น ต้องบาดเจ็บพิการจำกเหตุการณ์ครั้งนั้น มูลนิธิฯ ก็ได้ดูแลต่อมา หรือผู้ที่พึ่งประสบความเดือดร้อนในการที่จะเล่าเรียนศึกษา ก็ได้รับพระราชทำนทุนการศึกษาจนได้เป็นกำลังสำคัญของชาติดังที่ได้กล่าวมาแล้ว แล้วก็ได้พัฒนำในด้านต่างๆ เช่น การตั้งโรงเรียน ถือว่าเป็นการให้โอกาสแก่บุคคลต่างๆ ที่อาจจะไม่มีโอกาส ถือว่าเป็นการให้โอกาสที่เท่าเทียมกันในการที่จะพัฒนำตนเองให้เจริญแล้วได้มาพัฒนำชาติบ้านเมืองอีกต่อไป ก็ในช่วงเวลานี้ อาจจะถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองประสบภาวะวิกฤติ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการความร่วมมือจำกหน่วยงานต่างๆ และบุคคลต่างๆ อย่างมาก ฉะนั้น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ และบรรดากรรมการ หรืออาสาสมัคร หรือผู้บริจาคต่างๆ ก็จะต้องทางานที่หนักขึ้นหรือมีความรับผิดชอบมากขึ้น และก็อาจจะเหนื่อยหรือยากลำบาก ก็หวังว่าทุกท่านจะมีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง และสามารถนำพาบ้านเมืองไปอย่างปลอดภัยด้วยดีร่วมกัน ก็ขอขอบคุณทุกคน.