มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ฯ ประจำจังหวัดนครพนม มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยผู้ประสบอัคคีภัย

ซึ่งจากเหตุอัคคีภัยทั้ง 3 รายนั้นไม่เข้าข่ายเป็นภัยพิบัติ ด้วยเป็นกรณีการเกิดอัคคีภัยเพียง 1 หลัง จึงไม่สามารถให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทกรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 และหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 ได้ ดังนั้นมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดนครพนม ที่ก่อกำเนิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ทรงห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ด้วยต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ ให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และผ่อนคลายความทุกข์ร้อนของประชาราษฎร์ทุกหนแห่ง ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจ่ายของมูลนิธิฯ ในงานบรรเทาทุกข์ที่มีอยู่ในจังหวัด เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ผู้ประสบอัคคีภัย 1 หลัง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ยังความปลาบปลื้มแก่ครอบครัวผู้ประสบภัยทั้ง 3 รายเป็นล้นพ้นในน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงห่วงใยในราษฎร

โดยในโอกาสนี้นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ยังได้ขอบคุณคณะจิตอาสาทุกคน หน่วยราขการทุกหน่วยที่ได้เข้ามาช่วยเหลือกันอย่างสุดกำลัง ทำให้ผู้ประสบภัยและครอบครัวมีกำลังใจที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิตต่อไป พร้อมทั้งฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ในการช่วยกันสอดส่องและตรวจสอบความเรียบร้อยของสายไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าในบ้านเรือน และสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดภัยด้วย เพราะถ้าเกิดมาแล้วนั้นหมายถึงการสูญเสียในหลายๆด้าน แต่ถ้าทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตาก็จะทำให้ทุกคนในชุมชนมีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน