พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 48 อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี

วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๘ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โดยมีนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดจันทบุรี ,นางสุภาพร พาภักดี ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๘, คณะครูอาจารย์์, คณะกรรมการสถานศึกษา ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงานของโรงเรียน

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๘ จังหวัดจันทบุรี เดิมชื่อโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จันทบุรี รับนักเรียนที่ยากไร้ทางเศรษฐกิจ และสังคม ครอบครัวประสบปัญหา ขาดโอกาสทางการศึกษาเข้าเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จัดรูปแบบการศึกษาในลักษณะการศึกษาสงเคราะห์ให้นักเรียนอยู่ประจำ มีนักเรียน จำนวน ๕๖๕ คน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๔๕ คน ผลการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๑ คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา ๒๕๖๑ ๐.๐๘ ผลการจัดสอบวัดความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ คะแนนเฉลี่ยลดลงจากปีการศึกษา ๒๕๖๑ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ๑๑.๗๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ๑.๗๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ๑.๑๒ นักเรียนสามารถเข้ารับการศึกษาต่อ จำนวน ๘๑ คน ประกอบอาชีพ ๑๓ คน รวม ๙๔ คน

ทั้งนี้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๘ จังหวัดจันทบุรี ยังมีการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำโดยมีหลักสูตรที่เน้นการสอนด้านทักษะในการประกอบอาชีพให้กับนักเรียนด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเกษตรกรรม การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร งานอาชีพตัดผม การทำผ้าพันคอ การสอนการทำไอติมแท่ง ขนมโดนัท สมุนไพรพื้นบ้านยาหม่อง เป็นต้น ซึ่งภายหลังจบการศึกษานอกจากนักเรียนสามารถที่จะศึกษาต่อแล้ว นักเรียนยังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้อีกด้วยสามารถฝึกทักษะวิชาชีพต่าง ๆ จนสามารถมีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่โรงเรียน โดยการจำหน่ายผลไม้ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

นอกจากนี้คณะได้ไปตรวจเยี่ยมหอนอน และอาคารต่างๆ ภายในโรงเรียน รับฟังปัญหาที่พบ และตรวจเยี่ยมโครงการต่างๆ เพื่อนำข้อเสนอแนะมาพิจารณาให้การสนับสนุนตามความเหมาะสมต่อไป